รู้จักโน้ตน้ำหอมแบบง่ายๆ
ถ้าสาวๆ เคยสังเกตเวลาฉีดน้ำหอมแล้วจะมีกลิ่นที่ไล่ระดับไปเรื่อยๆ นั่นเป็นเพราะน้ำหอมหนึ่งขวดจะประกอบด้วยโน้ตของน้ำหอม 3 โน้ตซึ่งการไล่ระดับของกลิ่นเกิดจากการทำงานของโน้ตน้ำหอมแต่ละชั้นเพื่อให้กลิ่นมีความน่าค้นหามากยิ่งขึ้น
Top Note
กลิ่นแรกที่สัมผัสได้เวลาฉีดน้ำหอมออกมา ซึ่งจะเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างชัดเจนและอยู่ได้นานเพียง 5 ถึง 15 นาที
Middle Note
หลังจากกลิ่น Top Note เริ่มจางลง เราจะได้กลิ่นของ Middle Note ตามมา ซึ่งเป็นกลิ่นหลักของน้ำหอมตัวนั้นที่สามารถบอกถึงสไตล์และอารมณ์ของกลิ่นได้อย่างชัดเจน โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
Base Note
กลิ่นที่เป็นพื้นฐานของน้ำหอมตัวนั้นๆ หลังจาก Top Note และ Middle Note ได้เผยกลิ่นให้เราได้ดมจนจางไปและน้ำหอมสัมผัสกับผิวเราไปสักระยะ กลิ่น Base Note จะอยู่ติดกับตัวเรา และให้กลิ่นที่ชัดและติดทนได้ถึงประมาณ 4 ถึง 6 ชั่วโมง
4 สไตล์น้ำหอมที่ช่วยบอกความเป็นคุณในแต่ละวัน
เมื่อรู้จักโน้ตน้ำหอมกันแบบคร่าวๆ แล้ว ลองมาดูน้ำหอมผู้หญิงแต่ละแบบที่ให้อารมณ์แตกต่างกัน โดยโว้กบิวตี้ได้แยกน้ำหอมออกเป็น 4 สไตล์อารมณ์ มาดูกันเลย
สดใส ร่าเริง
1 / 3
1.Chloé Signature Eau De Toilette
น้ำหอมตัวดังจาก Chloé ที่สาวๆ หลายคนแยกกลิ่นด้วยสีโบว์ของขวด อย่างใน Signature Eau De Toilette หรือตัวโบว์ขาวจะให้กลิ่นแนวซิตรัสที่มีความสดใสผสมกับแนวฟลอรัลที่มีความหวาน
2 / 3
2.Marc Jacobs Daisy Love Eau de Toilette
น้ำหอมแนวกลิ่นฟรุตตี้ผสมฟลอรัลที่มีความเปรี้ยวหวานสุดน่ารักจาก Marc Jacobs
3 / 3
3.Guerlain Aqua Allegoria Orange Soleia Eau De Toilette
ด้วยส่วนผสมอย่างดอกกระดังงา เกรปฟรุตและมะกรูด น้ำหอม Aqua Allegoria Orange Soleia จาก Guerlain จึงให้ความเป็นทรอปิคัล มีความสดใสและสดชื่นผสมกัน
โรแมนติก น่าค้นหา
1 / 3
1.Giorgio Armani My Way Intense
ด้วยส่วนผสมของโน้ตน้ำหอมที่มีความวู้ดดี้ผสมกับฟลอรัลของ Giorgio Armani My Way Intense ทำให้กลิ่นที่ได้ไม่หวานจนเกินไปให้ความเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์สุดๆ
2 / 3
2.Chanel Coco Mademoiselle Eau de Parfum Spray
หนึ่งกลิ่นสุดคลาสสิกจาก Chanel ด้วยส่วนผสมจากโน้ตต่างๆ ที่มีทั้งส้ม มะกรูด ดอกจัสมินและกระดังงา ทำให้กลิ่นเป็นแนวซิตรัสผสมวู้ดดี้ บอกอารมณ์ถึงสาวสวยที่มีความเรียบง่ายแต่น่าค้นหา
3 / 3
3.Tom Ford Noir Pour Femme
หากอยากเป็นสาวเซ็กซี่ สุดเรียบหรู น้ำหอม Noir Pour Femme จาก Tom Ford ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว ด้วยแนวกลิ่นที่เป็นโอเรียนทัลผสมฟลอรัล ให้ความหวานแบบดูแพง
ผ่อนคลายสบายๆ
1 / 3
1.Byredo Super Cedar Eau De Parfum
กลิ่นแนววู้ดดี้ผสมกับฟลอรัลมัสก์ที่มีส่วนผสมของโน้ตอย่างกุหลาบ ซีดาร์วู้ดเวอร์จิเนีย ให้ความผ่อนคลายและอบอุ่น
2 / 3
2.Gucci Mémoire d'une Odeur Eau de Parfum
น้ำหอมขึ้นหิ้งตัวหนึ่งจาก Gucci ที่มีส่วนประกอบของโน้ตน้ำหอมอย่างดอกคาโมไมล์ มัสก์ อินเดียนจัสมินและแซนดัลวู้ด ให้อารมณ์ของกลิ่นที่มีความสบายๆ ไม่ฉุน ปนด้วยกลิ่นสมุนไพรเล็กน้อย
3 / 3
3.Jo Malone London Wood Sage & Sea Salt Cologne
แนวกลิ่นที่สะอาด มีความสดชื่น เหมือนอยู่ใกล้ธรรมชาติของ Jo Malone London Wood Sage & Sea Salt Cologne ช่วยผ่อนคลายในช่วงวันที่เครียดได้เป็นอย่างดี
อินเลิฟแบบหวานฉ่ำ
1 / 3
1.Versace Bright Crystal
กลิ่นแนวฟลอรัลที่มีความหวาน สดชื่นกำลังดีจากส่วนผสมอย่างยูซุ ทับทิม ดอกโบตั๋น อำพันและมัสก์ทำให้ Versace Bright Crystal เหมาะสำหรับสาวๆ สายหวานหรือสาวๆ ที่กำลังอินเลิฟเป็นอย่างมาก
2 / 3
2.Maison Margiela Replica Springtime In A Park EDT
Replica Springtime In A Park เป็นน้ำหอมแนวฟลอรัลและฟรุตตี้ ให้อารมณ์สาวหวานที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้
3 / 3
3.My Burberry Blush Eau De Parfum
ขึ้นชื่อเรื่องน้ำหอมย้อนวัยสาวอย่าง My Burberry Blush Eau De Parfum ด้วยส่วนประกอบอย่างทับทิม เลม่อน แอปเปิ้ลเขียวและเจอเรเนียม ให้กลิ่นแนวฟลอรัลฟรุตตี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในน้ำหอมเบสิกของสาวๆ ก็ว่าได้
