เชื่อว่า ‘สตรอเบอร์รี่’ เป็นหนึ่งในผลไม้โปรดที่ต้องมีอยู่ในลิสต์ของใครหลายคน เพราะรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่ชวนให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังอัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญมากมาย จึงไม่แปลกใจที่วงการความงามมักนิยมนำสตรอเบอร์รี่มาใช้เป็นส่วนผสมของสกินแคร์หรือเครื่องสำอาง หรือแม้แต่ในวงการน้ำหอมก็เช่นกัน สตรอเบอร์รี่ถูกนำมาใช้เป็นกลิ่นหอมที่ช่วยเพิ่มความสวยชิกให้กับลุคได้ไม่แพ้กับกลิ่นหอมอื่นๆ เลย โว้กบิวตี้แนะนำ 8 น้ำหอมที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของสตรอเบอร์รี่ หอมหวานละมุนและเซ็กซี่ในคราวเดียวกัน
1 / 8
Her Eau de Parfum จาก Burberry (ราคา 4,970 บาท)
น้ำหอมกลิ่นฟรุตตี้ฟลอรัลที่แสนมีชีวิตชีวา เปิดสัมผัสแรกของกลิ่นหอมด้วยกลิ่นของสตรอเบอร์รี่สีแดงเข้มที่ช่วยระเบิดความหอมสดชื่นออกมา โดยมีกลิ่นฟลอรัลของดอกมะลิและดอกไวโอเล็ตเป็นกลิ่นกลาง พร้อมกลิ่นดรายแอมเบอร์และมัสก์ทำหน้าที่เป็นเบส มอบผลลัพธ์กลิ่นหอมสดชื่นที่แฝงด้วยความโรแมนติกไว้ในคราวเดียวกัน
2 / 8
Cherry Strawberry Eau de Toilette จาก L’occitane (ราคา 2,650 บาท)
กลิ่นหอมอ่อนโยนแนวฟรุตตี้ฟลอรัลจากสตรอเบอร์รี่และดอกเชอร์รี่บลอสซั่มที่ได้จากหุบเขา Luberon ในแคว้น Provence เอกลักษณ์ของล็อกซิทาน ตามมาด้วยกลิ่นอบอุ่นมัสกี้อ่อนๆ มอบความรู้สึกน่าทะนุถนอม จุดประกายความสดใส และเสริมสร้างความเฟมินีนของผู้หญิงด้วยความสดชื่นที่เบ่งบานและเปล่งประกายมากกว่าเดิม
3 / 8
Holy Peony จาก Christian Dior (ราคา 12,000 บาท)
เปิดมาด้วยกลิ่นหอมโรแมนติกของดอกพีโอนี ตามมาด้วยการเลเยอร์ด้วยกลิ่นดอกกุหลาบ, ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ ผสมผสานความฉ่ำของผลไม้ในสไตล์ trompe l'oeil ที่มีประกายแวววาวของเบอร์รี่และแอปริคอต ช่วยเพิ่มเสน่ห์ความสง่างามแบบผู้หญิงที่ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เหมาะสำหรับใครที่อยากเติมความเป็นลูกคุณหนูให้กับลุค
4 / 8
Viva La Juicy Pink Couture Eau de Parfum จาก JUICY COUTURE (ราคา 2,340 บาท)
น้ำหอมสุดแกลมหวานแหวว เปิดมาด้วยกลิ่นหอมของกลีบดอกมะลิและดอกบัวสีชมพูที่เปล่งประกายระยิบระยับ เสริมความสดชื่นด้วยกลิ่นกลางของสตรอเบอร์รี่ ปิดท้ายด้วยความเซ็กซี่นุ่มลึกของกลิ่นวานิลลา ชวนให้นึกถึงสาวมั่นนั่งจิบค็อกเทลริมสระว่ายน้ำในช่วงซัมเมอร์ที่ผสานความเซ็กซี่และความชิดเข้าไว้ด้วยกัน มาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งสีชมพูโดดเด่นด้วยโบว์ผูกด้านหน้าที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์เลยก็ว่าได้
5 / 8
New York Eau de Parfum จาก Kate Spade (ราคา 5,200 บาท)
กลิ่นฟลอรัลฟรุตตี้ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของผลไม้และดอกไม้ เปิดมาด้วยกลิ่นแสนสดชื่นของผลไม้ในตระกูลซิตรัสและความหวานจากสตรอเบอร์รี่ ตามมาด้วยกลิ่นของดอกไม้ของดอกกุหลาบและดอกฟรีเซียที่ให้ความรู้สึกหอมละมุน ปิดท้ายด้วยกลิ่นแนวเปลือกไม้ เพิ่มความหลงใหลที่ชวนให้ต้องหันมอง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นหอมหวานสดชื่นที่สามารถฉีดได้หลายโอกาส
6 / 8
Daisy Eau So Intense Eau de Parfum จาก Marc Jacobs (ราคา 6,500 บาท)
กลิ่นหอมแบบใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิมจากรุ่นคลาสสิก Daisy ด้วยกลิ่นที่ผสมเข้ากันอย่างลงตัวจากสตรอเบอร์รี่, น้ำผึ้ง, ดอกกุหลาบและมอส มอบกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงอากาศอุ่นๆ ในฤดูใบไม้ผลิ เพราะมีความรู้สึกอบอุ่นแต่ไม่เลี่ยนจนเกินไป จึงสามารถฉีดได้สำหรับอากาศประเทศไทย แนะนำให้ฉีดในโอกาสงานกลางคืน ไม่ว่าจะไปออกเดตกับคนรู้ใจหรือไปปาร์ตี้กับเพื่อนสาวในช่วงวันหยุดวีคเอนด์ รับรองว่าเพิ่มความเซ็กซี่ได้เป็นเท่าตัว
7 / 8
Valentina Eau De Parfum For Her จาก Valentino (ราคา 6,200 บาท)
กลิ่นหอมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศของกรุงโรม ประเทศอิตาลี เปิดมาด้วยท็อปโน้ตคือกลิ่นทรัฟเฟิลและมะกรูด ตามมาด้วยกลิ่นกลางที่อัดแน่นไปด้วยความสดชื่นคือสตรอเบอร์รี่, ดอกมะลิ, ดอกซ่อนกลิ่น และดอกส้มสายพันธุ์แอฟริกัน ปิดท้ายด้วยเบสโน้ตคือวานิลลา, อำพัน และไม้ซีดาร์ เพิ่มความเซ็กซี่ในสไตล์สาวอิตาเลี่ยน สวยหรูดูมีระดับคล้ายๆ สไตล์ Old Money
8 / 8
Beauty Mon Paris Eau de Parfum จาก Yves Saint Laurent (ราคา 7,400 บาท)
น้ำหอมสุดโรแมนติกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกรุงปารีส เปิดตัวด้วยกลิ่นไวท์ ชีเพร ซึ่งเป็นการผสานความหอมของดอกไม้และผลไม้ได้อย่างลงตัว ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและท้าทาย ผสานกลิ่นพิมเสนใบเข้ากับกลิ่นหอมจากดอกไม้สีขาว ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนของมัสก์ รังสรรค์ออกมาเป็นกลิ่นหอมทันสมัยและน่าหลงใหลที่เหมือนยกกรุงปารีสมาไว้ในขวดนี้
.webp)
