“หากเจอปัญหาร่างกายไม่สมดุล ผิวไม่แข็งแรง เราคือเพื่อนกัน” บรรณาธิการด้านความงามฝ่ายดิจิทัลโว้กบิวตี้กับความรู้สึกที่มีต่อการดูแลตัวเองในปีนี้ เพราะมลภาวะคือหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลต่อผิวอย่างชัดเจน การดูแลตัวเองภาพรวมของบุ๊ค-ธีรชยาตลอดปีที่ผ่านมาจึงเน้นไปที่การฟื้นบำรุงและเสริมความแข็งแรงตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า รวมถึงการแต่งเติมด้วยเมกอัปที่เปลี่ยนจากลุคจัดเต็มมาเน้นเป็นลุคบางอ่อนสบายตา โดย 10 ไอเท็มที่เลือกมาทั้งหมดนี้นับเป็นไอเท็มแห่งปีที่ขาดไม่ได้ในรูทีนของเธอ
10 ไอเท็มชิ้นโปรดแห่งปีของ บุ๊ค ธีรชยา
1 / 10
1.Great Barrier Relief (1,230 บาท) จาก Krave Beauty
“เพราะเซรั่มตัวนี้ช่วยกู้ผิวแพ้จนกลับมาหายดี ”
เซรั่มสูตรไอคอนิกของแบรนด์ที่มีจุดเด่นแรกคือส่วนผสมที่เน้นการฟื้นเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงด้วยส่วนผสมที่ไม่ซับซ้อนอย่างน้ำมันทามานูช่วยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน ดอกคำฝอยและน้ำมันโรสฮิปช่วยปลอบประโลมผิวแห้ง ลดอาการแดงอักเสบ อีกหนึ่งจุดเด่นคือแพ็กเกจจิ้งภายในที่ใช้ “ไข่สุญญากาศ” เก็บเนื้อเซรั่มให้สดใหม่เสมอ
2 / 10
2. Phyto-Blanc La Nuit Overnight Brightening Cream (8,200 บาท) จาก Sisley
“หลังทาครีมตัวนี้ทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นขึ้นมาจะเจอผิวอิ่มฟูเหมือนนอนเต็มอิ่ม”
รู้สึกผิวหมองคล้ำหรือมีฝ้ากระเมื่อใด ครีมตัวนี้คือไอเท็มที่ไม่ควรพลาด เนื้อครีมเข้มข้นจะช่วยฟื้นบำรุงได้ดีเหมือนกับการใช้โอเวอร์ไนต์มาส์ก มีจุดเด่นคือส่วนผสม Rainbow Algae ช่วยลดการสะสมของเมลานิน ทำให้จุดด่างดำลดน้อยลง ผิวจะดูกระจ่างอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงจุดเด่นของกลิ่นหอมเอกลักษณ์ที่มาจากเอสเซนเชี่ยลออยล์สกัดจากลาเวนเดอร์และมาร์จอแรม (พืชตระกูลมิ้นต์) ทำให้รู้สึกผ่อนคลายก่อนนอนหลับ
3 / 10
3.Peeling Mask (690 บาท) จาก Shangpree
“นี่คือมาสก์ที่จะดึงเซลล์ผิวเสื่อมที่กองอยู่บนผิวออกไป ให้ใบหน้าดูกระจ่างขึ้น”
มาสก์เนื้อเจลที่มี PHA สำหรับผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน จุดเด่นคือความสะดวก ใช้ง่าย และราคาประหยัด ใช้สัปดาห์ละครั้งหลังล้างหน้าเสร็จ หรือทิปส์ที่บรรณาธิการความงามดิจิทัลของเราใช้คือมาสก์ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้าเพื่อให้เมกอัปเรียบเนียนขึ้น
4 / 10
4.Primer++ (239 บาท) จาก In2It
“ไพรเมอร์ตัวดังที่แค่ใช้ครั้งแรกก็ต้องยกเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ เพราะเมกอัปเนียนและติดทนนานขึ้น”
ไพรเมอร์เนื้อกำมะหยี่ที่ลงเป็นเบสก่อนแต่งหน้าให้ผิวดูเรียบเนียนพร้อมแต่งหน้าต่อ จุดเด่นของไพรเมอร์ชิ้นนี้คือเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะผิว กันน้ำกันเหงื่อ ควบคุมความมันบนใบหน้า พร้อมช่วยเบลอรูขุมขนให้แลดูเล็กลง และมีส่วนช่วยเติมเต็มร่อง-ริ้วรอยเล็กๆ ให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน โดยสองส่วนผสมสำคัญที่โดดเด่นคือสารสกัดจาก Exo-p ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ Pm2.5 และ Dandelion Extract ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายจากมลภาวะให้กลับมาเรียบเนียน แลดูสุขภาพดี
5 / 10
5.Beauty Balm Serum Boosted Skin Tint (1,870 บาท) จาก Anastasia Beverly Hills
“รองพื้นแบบแท่งตัวนี้คือไอเท็มที่ใช้บ่อยที่สุดในวันที่อยากแต่งหน้าน้อยๆ ให้ฟินิชเหมือนผิวดูสุขภาพดี”
เมื่อไลฟ์สไตล์ด้านเมกอัปในชีวิตประจำวันของบุ๊ค-ธีรชยาในปีนี้เปลี่ยนมาเป็นลุคที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นการปกปิดจึงลดความสำคัญลง แต่เน้นไปที่ความสว่างของผิวที่เพิ่มขึ้น รองพื้นแบบแท่งจึงตอบโจทย์ โดยเฉพาะชิ้นนี้ที่แค่ปาดและเกลี่ยก็มีผิวดูเนียนกระจ่างได้ในเวลาสั้นๆ แม้จะไม่ให้ได้การปกปิดแต่อย่างใด แต่ทำให้ผิวดูกระจ่างขึ้นเป็นอันจบตามความต้องการ
6 / 10
6.On-The-Glow Blush PH Tinted Moisturiser Stick (790 บาท) จาก Pixi
“สีชมพูอ่อนของบลัชออนตัวนี้ทำให้แต่งหน้าออกมาทีไร ดูอ่อนวัยเหมือนสมัยเป็นนักศึกษา”
บลัชออนรูปแบบแท่งเปลี่ยนสีตามค่าพีเอชบนผิว ไม่ว่าจะโทนผิวไหนบลัชออนตัวนี้จะให้ฟินิชสีระเรื่อแก้มฝาดแบบเด็กวัยเยาว์แบบไม่ดูลอย ซึ่งทิปส์ที่บรรณาธิการความงามฝ่ายดิจิทัลของเราใช้เป็นประจำคือลงทับใบหน้าที่มีแค่มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดในวันที่ต้องการให้ผิวดูอมชมพู
7 / 10
8.Mineralscapes (สอบถามราคาที่เคาน์เตอร์) จาก Byredo
“พาเลตต์นี้ทำให้แต่งตาลุคชิมเมอร์สนุกขึ้นหลายเท่า”
แม้อายแชโดว์พาเลตต์นี้จะมาจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำหอม แต่ก็ไม่ได้ใส่กลิ่นหอมมาในตลับแต่อย่างใด อายแชโดว์พาเลตต์รุ่นลิมิเต็ดนี้โดดเด่นด้วยความชัดเจนของประกายชิมเมอร์ ความหลากหลายของสีทำให้ใช้จับคู่แต่งอายส์เมกอัปกับอายแชโดว์พาเลตต์เนื้อแมตต์อื่นๆ ได้สนุกขึ้น หรือหากอยากได้ลุคไปเที่ยวแบบง่ายๆ ใช้เพียงสีเดียวลงทั่วเปลือกตาก็เอาอยู่
8 / 10
7.Trace'D Out Lip Liner (900 บาท) จาก Fenty Beauty
“แต่งลุคแบบสาวละตินเมื่อไหร่ ลิปไลเนอร์สีน้ำตาลตัวนี้ต้องเขียนก่อนทาลิปสติกเสมอ”
ลิปไลเนอร์เนื้อเจลที่เขียนลื่นเหมือนกับปากกาลูกลื่น จุดเด่นคือสีน้ำตาลที่ใช้ทั้งเขียนขอบปากหรือใช้แต้มเป็นบลัชออนและคอนทัวร์ก็ได้เช่นกัน แม้เทรนด์ขอบริมฝีปากคมชัดจะเลือนหายไปหลายปี แต่หากเขียนขอบริมฝีปากและเบลนด์ให้เบลอร์เล็กน้อยจะได้ลุคสาวละตินฉบับปี 2024
9 / 10
9.Body Oil กลิ่น The Legacy (1,190 บาท) จาก Journal
“มอบความชุ่มชื่น ล็อกความชุ่มชื้น แถมยังหอมติดตัวตลอดวัน”
บอดี้ออยล์ที่ขึ้นชื่อเรื่องมอบความชุ่มชื่นแบบไม่เหนอะหนะผิว พร้อมล็อกความชุ่มชื้นในชั้นผิวให้อยู่นาน ส่วนผสมหลักของบอดี้ออยล์ตัวนี้คือน้ำมันโจโจบา สวีตอัลมอนด์ มะพร้าว และอะโวคาโด ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เด่นเรื่องความชุ่มชื่น จุดเด่นสำคัญที่ทำให้กลายเป็นชิ้นโปรดของ บุ๊ค-ธีรชยา คือกลิ่นหอมนุ่มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลายจากไม้กฤษณา ทำให้เวลาใช้บอดี้ออยล์ตัวนี้เหมือนกับได้บำรุงผิวพร้อมฉีดน้ำหอมไปในตัว
10 / 10
10.Anti-Hair Loss Serum (1,460 บาท) จาก L’occitane
“ใช้ดีจนเลิกกังวลผมร่วง แต่มากังวลแทนว่าไม่อยากให้ไอเท็มนี้เลิกผลิต”
ไม่ใช่แค่ปัญหาผมร่วง แต่ใครที่รู้สึกบริเวณแสกผมเห็นหนังศีรษะชัดตัวนี้ก็ช่วยได้เช่นกัน คุณสมบัติหลักของเซรั่มบำรุงหนังศีรษะตัวนี้คือเพิ่มอัตราการเกิดผมใหม่ โดยมีส่วนผสมเด่นอย่าง Immortelle Essential Oil ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันชั้นผิวบริเวณหนังศีรษะ ยิ่งใช้คู่กับแชมพูที่ช่วยเรื่องผมร่วงด้วยจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น