ปกติเมื่อเห็นคำว่าเอสเซนซ์ เราจะคุ้นเคยกับรูปแบบที่เป็นน้ำตบซะเป็นส่วนใหญ่มากกว่ารูปแบบอื่น ที่เน้นการให้ความชุ่มชื้นกับผิว เพื่อให้ผิวเปิดพร้อมกับการลงสกินแคร์ชิ้นอื่นตามมา แต่จริงๆ แล้วเอสเซนซ์ยังมีในรูปแบบอื่นอีกเช่นกัน ซึ่งจะมีเนื้อสัมผัสและคุณสมบัติแตกต่างกันไป วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเอสเซนซ์ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบน้ำตบ มาดูกันว่าเรารู้จักแบบไหนบ้าง
1. Essence-in-Water
เอสเซนซ์ในรูปแบบที่มีน้ำเป็นเบสคือรูปแบบปกติของเอสเซนซ์ทั่วไป มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นหลัก ใช้ลงหลังโทนเนอร์และก่อนเซรั่ม วิธีการใช้เอสเซนซ์ในรูปแบบน้ำตบคือสามารถเทลงบนฝ่ามือแล้วตบเบาๆ ลงบนผิว ไม่แนะนำให้หยดลงบนสำลีแบบโทนเนอร์ เพราะผลิตภัณฑ์จะมีความหนืดกว่าเล็กน้อย ควรลงผลิตภัณฑ์บนใบหน้าแบบตรงๆ เลยจะดีกว่าการผ่านสำลี
2. Essence-in-Lotion
เอสเซนซ์ในรูปแบบของโลชั่น จะมีความเหนียวข้นกว่าแบบน้ำตบเล็กน้อย เวลาทาออกมาจากขวดลงบนฝ่ามือแล้วลองตบเบาๆ จะสังเกตว่ามีความหนึบของเนื้อเอสเซนซ์์ บางสูตรมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ บางสูตรมีลักษณะเป็นน้ำนม แล้วแต่ส่วนผสมหลักของเอสเซนซ์ชิ้นนั้น ฉะนั้นเอสเซนซ์ประเภทอาจจะเหมาะสำหรับผู้ที่สภาพผิวแห้งหรือผิวธรรมดา เพราะเนื้อจะค่อนข้างหนากว่าแบบน้ำตบ แต่ถ้าใครอยากลองใช้ อาจจะมองหาเป็นสูตรออยฟรีแทนก็ได้
3. Essence-in-Face Mist
เอสเซนซ์ในรูปแบบของสเปรย์ฉีดหน้า ทำหน้าที่คล้ายกับสเปรย์น้ำแร่ทั่วไป เพียงแต่มีส่วนผสมของการให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ จึงทำหน้าที่แบบคูณสองคือเป็นทั้งเอสเซนซ์และสเปรย์น้ำแร่ในหนึ่งเดียว บางคนอาจจะใช้ฉีดหลังจากการลงโทนเนอร์เสร็จแล้วต่อด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์ตามปกติ หรือจะใช้ฉีดระหว่างวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหลังจากการทัชอัพหน้าเสร็จ
4. Essence-in-Oil
เอสเซนซ์ในรูปแบบของออยล์ จะมีลักษณะคล้ายกับเฟซออยล์แต่เนื้อเบาบางกว่าเล็กน้อย จึงซึมซาบลงไปในผิวได้รวดเร็วกว่าเฟซออยล์ทั่วไป ใครที่มีผิวมันหรือผิวผสมอาจจะเลือกใช้เอสเซนซ์ชนิดนี้แทนเฟซออยล์ก็ได้

Oil Essence, Essence Like, Oil like จาก Huxley (ราคา 1,400 บาท)

SKINCARE
ใครจะไปรู้ว่า 'เชอร์รี่' เวลากินว่าอร่อยแล้ว พอมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ก็ยังให้ประโยชน์อีกมากมาย
