เมื่อเทรนด์ Sustainable กลายเป็นหนึ่งเทรนด์หลักของวงการบิวตี้ยุคปัจจุบัน การได้รู้จักกับส่วนผสมสำคัญที่หลายแบรนด์เลือกหยิบมาใช้กันมากขึ้นถือเป็นเรื่องได้เปรียบ เพราะจะช่วยให้เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น

ส่วนผสมสกินแคร์จะช่วยโลกได้จริงไหม?
หลายครั้งที่เกิดการตั้งคำถามจากเหล่าผู้บริโภคว่าเทรนด์นี้สามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะในวงการบิวตี้ที่เริ่มใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนและช่วยได้อย่างไร? มาดูกัน
-
ลดการหมดไปของแหล่งที่มาส่วนผสม
บางส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เสมอไป เพราะอาจเกิดการหมดไปของแหล่งที่มาส่วนผสมนั้น ดังนั้นส่วนผสมที่ดีต่อเราและดีต่อธรรมชาติต้องสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ รวมถึงไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติมากจนเกินไปในขั้นตอนการนำมาใช้อีกด้วย
-
ลดการเกิดขยะจากกระบวนการผลิต
ขั้นตอนผลิตส่วนผสมสกินแคร์หรือเมกอัพต่างๆ หากเป็นส่วนผสมทั่วไปเมื่อผลิตหรือสังเคราะห์เสร็จแล้วมักเกิดขยะตามมา ทำให้ต้องมีกระบวนการที่มากขึ้นเพื่อกำจัดขยะ และแน่นอนว่าย่อมส่งผลเสียต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแน่นอน
-
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ข้อนี้ถือเป็นผลที่เกิดขึ้นจากสองข้อด้านบน ทั้งลดการหมดไปของบางแหล่งที่มา และลดการเกิดขยะที่จำเป็นต้องใช้กระบวนการต่างๆ มากำจัด หากลดปัญหาเหล่านี้ลงได้ เราจะสามารถรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ในระยะยาวได้อีกด้วย
5 ส่วนผสมบำรุงผิวสวยแบบ Eco-Friendly
1.Ceramide
ส่วนผสมที่มีแหล่งที่มาจากธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลือง ไข่ หรือผลิตภัณฑ์จากนม เป็นต้น โดยสรรพคุณเรียกว่าเป็นที่รู้กันของสาวๆ ที่เน้นเรื่องผิวแข็งแรงและฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน โดย Ceramide จะช่วยสร้างเกราะป้องกันของผิวและรักษาความชุ่มชื้นบนใบหน้า
ไอเท็มแนะนำ

2. Green Tea
หนึ่งส่วนผสมยอดฮิตในวงการสกินแคร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องชะลอการเกิดริ้วรอย มีแหล่งการผลิตหลายประเทศทั่วโลก โดยมีประเทศจีนเป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งที่นำมาใช้นั้นจะเป็นเพียงการเด็ดบางส่วน เช่น ใบชา ทำให้ต้นชายังสามารถยืนต้นและงอกใบออกมาใหม่ได้ Green Tea จะอยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Anti-Aging เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวหลังโดนทำร้ายจากแสงแดดอีกด้วย
ไอเท็มแนะนำ

3.Chamomile
ส่วนผสมขึ้นชื่อเรื่องการปลอบประโลมผิว Chamomile มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศเม็กซิโก อาร์เจนตินาและอียิปต์ มีจุดเด่นคือการซึมลึกถึงผิวหนังชั้นใน นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณรักษาสิวและรอยแดง รวมถึงชะลอการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
ไอเท็มแนะนำ

4.Jojoba Oil
ส่วนผสมสกัดจากต้น Jojoba ที่เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศแห้งและร้อน โดย Jojoba Oil มีสรรพคุณช่วยให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียได้เป็นอย่างดี โดยส่วนผสมนี้จะเหมาะกับคนที่ผิวแห้งเป็นส่วนใหญ่
ไอเท็มแนะนำ

5.RoseHip Oil
ส่วนผสมที่สกัดน้ำมันจากเมล็ดของพุ่มกุหลาบสายพันธุ์ Rosa Moschata หรือ Rosa Rubiginosa โดย RoseHip Oil มีส่วนประกอบของกรดไขมันอย่างโอเมก้า 3 และ 6 รวมไปถึง Pro-Vitamin A สรรพคุณของ RoseHip Oil สามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใส ฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน รักษารอยแผลเป็น ลดการระคายเคืองหรืออักเสบ และชะลอการเกิดริ้วรอย
ไอเท็มแนะนำ
