Vogue Beauty Thailand

SKINCARE

บิวตี้ไอเทมประเภทไหนถึงเรียกว่าเป็น “ออร์แกนิก” ?

มาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากกว่านี้กันดีกว่า

โดย Janisara Katanyutaveetip
07 พฤษภาคม 2561

Photo: @koraorganics

ถ้าได้ชื่อว่าเป็นบิวตี้ไอเทมที่เป็น “ออร์แกนิก” แล้ว แน่นอนว่าส่วนผสมจะต้องอ่อนโยนต่อผิวและปลอดสารพิษ โดยในแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีปริมาณของความออร์แกนิกที่แตกต่างกันไป สาวๆที่อยากมีผิวหน้าเนียนสวย ปลอดสารพิษ ตามมาเช็คประเภทของบิวตี้ไอเทมที่มากับส่วนผสมออร์แกนิกกันได้เลย

Article

@organicbunny

ประเภทของส่วนผสมออร์แกนิกตามมาตรฐาน USDA จากสหรัฐอเมริกามีระดับที่แตกต่างกันไปดังนี้:

100% Organic หมายถึง ส่วนผสมทุกชนิดในผลิตภัณฑ์ต้องผลิตด้วยกรรมวิธีปลอดสารพิษล้วนๆ

95% Organic หมายถึง ในผลิตภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกอย่างน้อย 95% ขึ้นไป นอกเหนือจากนั้นสามารถใช้สารสังเคราะห์ได้เพียงเล็กน้อย

Made with Organic Ingredients หมายถึง ในผลิตภัณฑ์ต้องมีส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกอย่างน้อย 70% ขึ้นไป และต้องระบุชื่อของส่วนผสมนั้นด้วย ส่วนอีก 30% จะต้องเป็นส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวและปลอดสารพิษด้วยเช่นกัน

PROS

-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า

ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกนั้นต้องอาศัยการเกษตรแบบอนุรักษ์ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน ฉะนั้นการผลิตอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ดีเพราะมีของเสียน้อยและไม่ต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืช ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าส่วนผสมที่เป็นออร์แกนิกนั้นจะให้คุณค่าการบำรุงที่ดีกว่า เนื่องจากการปลูกด้วยวิธีนี้จะช่วยให้พืชสามารถส่งพลังบำรุงออกมาได้เต็มที่

-มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายน้อยกว่า

เพราะในส่วนผสมไม่มีสารเคมี หรือมีสารสังเคราะห์อยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการมีสารเคมีตกค้างในร่างกายและยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงในระยะยาวด้วย

CONS

-อายุการใช้งานสั้น

เนื่องจากไม่มีสารกันบูด โดยถ้ายังไม่เปิดฝาจะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน แต่ถ้าเปิดฝาแล้วต้องรีบใช้ให้หมดภายใน 2-3 เดือน

-ส่วนผสมบางชนิดไม่สามารถทำเป็นออร์แกนิกได้

สูตรส่วนผสมเพื่อผลัดลอกผิวหรือ Chemical Peel นั้นไม่สามารถทำให้เป็นออร์แกนิกได้ เพราะสารที่ใช้จะต้องเป็นสารสังเคราะห์จากธรรมชาติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

TAGS : organic